image

วิธีเลือก Software & SaaS ให้เหมาะกับธุรกิจของคุณ

ในยุคที่เทคโนโลยีมีบทบาทสำคัญในการดำเนินธุรกิจ การเลือกใช้ Software & SaaS (Software as a Service) ที่เหมาะสมกับองค์กรเป็นสิ่งสำคัญ เพราะสามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ลดต้นทุน และเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขัน อย่างไรก็ตาม การเลือกซอฟต์แวร์ที่เหมาะสมอาจเป็นเรื่องที่ท้าทาย ดังนั้นบทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจแนวทางการเลือก Software & SaaS ที่ตรงกับความต้องการของธุรกิจคุณ

1. ทำความเข้าใจความต้องการของธุรกิจ

ก่อนที่จะเลือกซอฟต์แวร์ คุณควรเริ่มต้นด้วยการวิเคราะห์และกำหนดความต้องการของธุรกิจให้ชัดเจน โดยพิจารณาปัจจัยต่อไปนี้:

  • ลักษณะของธุรกิจ – ธุรกิจของคุณเป็นประเภทใด (B2B, B2C, SME, Enterprise) และต้องการซอฟต์แวร์ในด้านใด เช่น CRM, ERP, HRM, POS หรืออื่น ๆ

  • ปัญหาที่ต้องการแก้ไข – ซอฟต์แวร์ควรช่วยแก้ไขปัญหาอะไร เช่น การบริหารงาน, การจัดการลูกค้า, หรือการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน

  • งบประมาณที่มี – การเลือก SaaS ควรคำนึงถึงต้นทุนระยะยาว ทั้งค่าธรรมเนียมสมัครสมาชิกและค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม

  • ขนาดของทีมที่ใช้งาน – ต้องพิจารณาว่าซอฟต์แวร์รองรับจำนวนผู้ใช้งานได้เพียงพอหรือไม่

2. เปรียบเทียบระหว่าง SaaS, On-Premise และ Open Source

เมื่อคุณมีความต้องการที่ชัดเจนแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการเลือกประเภทของซอฟต์แวร์ที่เหมาะสม ซึ่งสามารถแบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลัก ได้แก่:

(1) SaaS (Software as a Service)

ข้อดี

  • ไม่ต้องติดตั้งซอฟต์แวร์เอง สามารถเข้าถึงได้จากทุกที่ผ่านอินเทอร์เน็ต

  • ค่าบริการรายเดือนหรือรายปี มีความยืดหยุ่นในการปรับขนาดการใช้งาน

  • อัปเดตและบำรุงรักษาโดยผู้ให้บริการ ลดภาระ IT

ข้อเสีย

  • ขึ้นอยู่กับอินเทอร์เน็ต หากเครือข่ายล่ม อาจใช้งานไม่ได้

  • มีข้อจำกัดด้านความสามารถในการปรับแต่ง

  • มีค่าบริการต่อเนื่อง อาจแพงกว่าการซื้อขาดในระยะยาว

(2) On-Premise Software (ติดตั้งในองค์กร)

ข้อดี

  • สามารถปรับแต่งได้เต็มที่และควบคุมข้อมูลได้อย่างสมบูรณ์

  • ไม่ต้องพึ่งพาอินเทอร์เน็ตในการใช้งานหลัก

ข้อเสีย

  • ต้องลงทุนซื้อซอฟต์แวร์และเซิร์ฟเวอร์เอง ซึ่งมีค่าใช้จ่ายสูง

  • ต้องมีทีม IT ดูแลบำรุงรักษาและอัปเดตระบบเอง

(3) Open Source Software (ซอฟต์แวร์โอเพ่นซอร์ส)

ข้อดี

  • ไม่ต้องเสียค่าลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์

  • สามารถปรับแต่งได้ตามต้องการ

ข้อเสีย

  • ต้องมีทีม IT ที่เชี่ยวชาญในการติดตั้งและดูแลระบบ

  • ไม่มีการสนับสนุนลูกค้าโดยตรงเหมือน SaaS

3. พิจารณาคุณสมบัติและฟีเจอร์ของซอฟต์แวร์

เมื่อเลือกประเภทซอฟต์แวร์แล้ว ควรพิจารณาฟีเจอร์ที่จำเป็นสำหรับธุรกิจของคุณ โดยพิจารณาปัจจัยต่อไปนี้:

  • ความสามารถในการใช้งาน (Usability) – ใช้งานง่ายหรือไม่? รองรับหลายอุปกรณ์หรือไม่?
  • การรองรับการขยายตัว (Scalability) – หากธุรกิจเติบโตขึ้น ระบบสามารถรองรับการขยายตัวได้หรือไม่?
  • ความปลอดภัย (Security & Compliance) – ระบบมีมาตรฐานความปลอดภัย เช่น ISO 27001, GDPR, PDPA หรือไม่?
  • การรวมระบบ (Integration) – สามารถเชื่อมต่อกับซอฟต์แวร์อื่นที่ใช้อยู่ เช่น CRM, ERP, หรือ Payment Gateway ได้หรือไม่?
  • การสนับสนุนและบริการหลังการขาย – มีทีมซัพพอร์ตช่วยเหลือหรือไม่? มี SLA หรือการรับประกันคุณภาพการบริการหรือไม่?

4. ทดลองใช้งานก่อนตัดสินใจ (Free Trial & Demo)

ซอฟต์แวร์หรือ SaaS ส่วนใหญ่มักมี Free Trial หรือ Demo ให้ทดลองใช้งานก่อนซื้อจริง แนะนำให้ทดสอบโดยดูว่า:

  • ระบบใช้งานง่ายหรือไม่

  • ตอบโจทย์ความต้องการของทีมงานหรือไม่

  • มีฟีเจอร์ที่จำเป็นครบถ้วนหรือไม่

  • การบริการหลังการขายและการสนับสนุนลูกค้าดีหรือไม่

เคล็ดลับ: ควรให้ทีมที่ต้องใช้งานเป็นผู้ทดลอง เพื่อให้แน่ใจว่าซอฟต์แวร์เหมาะสมกับการทำงานจริง

5. อ่านรีวิวและเปรียบเทียบราคา

ก่อนตัดสินใจ ควรศึกษารีวิวจากผู้ใช้จริงและเปรียบเทียบราคากับแพลตฟอร์มอื่น ๆ สามารถดูได้จาก:

  • เว็บไซต์รีวิวซอฟต์แวร์ เช่น G2, Capterra, Trustpilot

  • ฟอรัมและชุมชนออนไลน์ เช่น Reddit, Stack Overflow

  • เปรียบเทียบแพ็กเกจราคา เพื่อเลือกแผนที่คุ้มค่าที่สุดสำหรับธุรกิจของคุณ

6. วางแผนการนำไปใช้งาน (Implementation Plan)

เมื่อตัดสินใจเลือกซอฟต์แวร์ ควรมีแผนการนำไปใช้ในองค์กร โดยพิจารณา:

  • วิธีการฝึกอบรมพนักงาน

  • ระยะเวลาในการติดตั้งและทดสอบระบบ

  • การสำรองข้อมูลและแผนฉุกเฉิน (Backup & Disaster Recovery)

สรุป

การเลือก Software & SaaS ให้เหมาะกับธุรกิจไม่ใช่แค่เลือกซอฟต์แวร์ที่ดีที่สุด แต่ต้องเลือก ซอฟต์แวร์ที่เหมาะกับความต้องการและเป้าหมายขององค์กร ด้วยหลักเกณฑ์ต่อไปนี้:

  1. วิเคราะห์ความต้องการของธุรกิจ

  2. เลือกประเภทซอฟต์แวร์ (SaaS, On-Premise, Open Source)

  3. พิจารณาฟีเจอร์ที่จำเป็น

  4. ทดลองใช้งานก่อนตัดสินใจ

  5. อ่านรีวิวและเปรียบเทียบราคา

  6. วางแผนการนำไปใช้งาน

หากคุณกำลังมองหา ซอฟต์แวร์ที่เหมาะกับธุรกิจของคุณ สามารถค้นหาและเปรียบเทียบ SaaS และซอฟต์แวร์ต่าง ๆ ได้ที่ B2BPrime – Software Marketplace & Digital Services

อย่าลืม! เลือกซอฟต์แวร์ที่ตอบโจทย์ที่สุด เพื่อให้ธุรกิจของคุณเติบโตอย่างยั่งยืน